ทำไมต้องทาน Collagen ?
เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายจะสร้าง Collagen ได้น้อยลง หากร่างกายได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอจะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ไม่เรียบเนียน และเกิดริ้วรอย ทำให้ดูแก่กว่าวัย เราจึงต้องเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกายอยู่เสมอ
ทาน Collagen ยังไงให้เห็นผลลัพธ์
สำหรับสาวๆ วัย 30+ ที่ร่างกายเริ่มฟ้องว่าขาดคอลลาเจน จะเริ่มทานอย่างไรและทานวิธีไหนให้เห็นผลเร็วที่สุด วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว อย่ารอช้ารีบไปดูกันเลย
-
- ทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง หรือ ก่อนนอน
การเลือกทานคอลลาเจนตอนท้องว่างที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารหรือตอนก่อนนอน ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลาย หรือทานก่อนนอนจะเห็นผลมาก เพราะตอนที่เราหลับระบบในร่างกายและคอลลาเจนจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ร่างกายนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
-
- เลือกทานคอลลาเจนไดเปปไทด์ และคอลลาเจนแบบผงดูดซึมได้ดีกว่าแบบเม็ด
รูปแบบและประเภทของคอลลาเจนก็มีผล เพราะปัจจุบันคอลลาเจนเพื่อหน้าใส ผิวใสมีหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ดและแบบผง แต่ที่แนะนำที่สุดก็คือคอลลาเจนแบบผงชงดื่ม หรือแบบน้ำ ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการดูดซึมเร็วกว่าชนิดเม็ด (คอลลาเจนแบบเม็ดใช้เวลาในการละลาย 20 – 30 นาที) ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ได้เลย และเลือกทานคอลลาเจนไดเปปไทด์ (Dipeptide) เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็กมากๆ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากกว่าคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ
และยังมีงานวิจัยว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์ยังช่วยในเรื่องของกระดูกและข้อต่อด้วย โดยช่วยลดการเสื่อมและช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์คอนโดนไซด์หรือเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกอ่อนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆอีก เช่น
-
- ช่วยเพิ่มน้ำในข้อข่อ ทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง
- ช่วยควบคุมการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่ทำลายกระดูกและเซลล์ที่สร้างกระดูกให้ทำงานได้อย่างสมดุล
- ลดภาวะโรคข้อเสื่อม
-
- เลือกคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
วิตามินซีในรูป L-ascorbic acid ซึ่งพบได้จากธรรมชาติในผักและผลไม้ต่าง ๆ มีความสามารถในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ โดยวิตามินซีมีบทบาทในปฏิกิริยา hydroxylation ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งเอนไซม์ matrix metalloprotenase (MMPs) ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถตัดย่อยคอลลาเจน วิตามินซีมีบทบาทในการเป็นปัจจัยร่วมระหว่างขั้นตอนการสังเคราะห์คอลลาเจน หากร่างกายขาดวิตามินซี คอลลาเจนที่สร้างขึ้นก็จะเกิดการแตกหัก ซึ่งจะนำไปสู่อาการผิดปกติของโรคต่างๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิดได้ การรับประทานวิตามินซีหรืออาหารที่มีวิตามินซีสูงควบคู่กัน มีส่วนช่วยในกระบวนการดูดซึมคอลลาเจน และยังช่วยดับเบิ้ลผิวหน้าและผิวกายให้เปร่งประกายและเปล่งปลั่งอีกด้วย
-
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและมลภาวะ
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจน ควรพักผ่อนให้เพียงพอ สมดุลกับช่วงเวลาการทำงานและการใช้ชีวิต การหลีกเลี่ยงแสงแดดและมลภาวะ โดยเฉพาะจากการเดินทางและในช่วงพักกลางวัน การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตลอดจนการลดความเครียด
-
- เสริมคอลลาเจนจากแหล่งอื่น
การรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมหรือมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบก็น่าสนใจ แต่จำไว้ว่าไม่อาจให้ประสิทธิภาพที่เทียบเท่ากับการรับประทานคอลลาเจนที่มาในรูปแบบของสารสกัดที่วางขายทั่วไป เป็นเพียงวิธีการกินคอลลาเจนที่เสริมการทำงานระหว่างกันและกันเท่านั้น โดยมีอยู่ในอาหารจำพวกปลาแซลมอน ปลาทูน่าที่มีทั้งโปรตีนและเป็นแหล่งผลิตคอลลาเจนชั้นดี อโวคาโดที่ช่วยปกป้องอนุมูลอิสระ เป็นแหล่งคอลลาเจนหน้าใส และรักษาริ้วรอย และมะเขือเทศที่ช่วยป้องกันยูวีและสังเคราะห์คอลลาเจน นอกจากนี้เราขอแนะนำอาหารที่มีคอลลาเจนสูง ทานแล้วช่วยให้ผิวเด้ง ใส เนียน ไปลองหาทานกันได้เลย
1.แตงกวา
แตงกวาคือ หนึ่งในผักที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง ในแตงกวาอุดมไปด้วยกำมะถันที่มีส่วนสำคัญในการใช้สร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาปัญหาผิวอื่นๆ เช่น รอยแดงจากสิว รอยดำ ริ้วรอย และลดปัญหาสิวอุดตันลงได้
2.ผักผลไม้สีแดง
ผักหรือผลไม้ที่มีสีแดง ล้วนอุดมไปด้วยไลโคปีนซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ล เชอร์รี่ เบอร์รี่ มันฝรั่งแดง และมะเขือเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มและขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
3.กะหล่ำปลี
ผักชนิดนี้มีสารที่เรียกว่า ลูติน (lutein) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 แมงกานีส โฟเลท แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม และธาตุเหล็ก
4.แครอท
ผักสีส้มซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อสายตาและยังกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยปรับสมดุลของอีลาสติน ทำให้ผิวไม่แห้งเกินไป ไม่เพียงเท่านั้น ในแครอทยังมีสารฟอลคารินอลที่ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
5.ถั่วและธัญพืช
อาหารชนิดนี้อุดมไปด้วยไฮยาลูโรนิคที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และเพิ่มการผลิตคอลลาเจนให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
6.ถั่วเหลือง
ไม่ว่าจะเป็นนมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกชนิด ถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ไอโซฟลาโวน โดยมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยในการซ่อมแซมผิวพรรณให้แข็งแรงขึ้น
7.ส้มและมะนาว
ส้มและมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีส่วนช่วยในการผลิตคอลลาเจน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ แก้ปัญหาผิวไหม้ และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวได้เป็นอย่างดี
8.น้ำมันอะโวคาโด
ภายในอะโวคาโดนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ อี ดี กรดลิโนเลอิก กรดโอเลอิก ไฟโตสเตอรอล และเลซิติน เมื่อสกัดมาเป็นน้ำมัน ก็จะยิ่งซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
-
- ผลลัพธ์ที่ได้จากการทานคอลลาเจน
ต้องบอกเลยว่าสาว ๆ วัย 30+ ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาและมักละเลยการดูแลตัวเอง การทานคอลลาเจนจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญและประหยัดเวลา ซึ่งจะช่วยทั้งในเรื่องความสวย ผิว การทำงานของระบบขับถ่าย สายตา รวมทั้งข้อต่อและกระดูก ส่วนผลลัพธ์ส่วนใหญ่ที่สาว ๆ ได้รับหลังจากกินคอลลาเจนก็คือ ผิวที่นุ่มลื่นขึ้นชวนสัมผัส การขับถ่ายในตอนเช้าที่ดีขึ้น การปวดตามข้อต่าง ๆ ที่น้อยลง