• บทความ
  • Becoplus
  • “อารมณ์” เปลี่ยน ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

“อารมณ์” เปลี่ยน ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

อารมณ์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

เรื่องของ “อารมณ์” เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน วันนี้คุณอาจอารมณ์ดีมาก ๆ แต่วันถัดไปอาจเสียใจ กังวล และโกรธในวันเดียวกันเลยก็ได้ บางครั้งคุณควบคุมมันได้ แต่บางครั้งก็อาจเกินการควบคุมของคุณและเกิดอารมณ์นั้น ๆ ต่อเนื่องกันหลาย ๆ วัน บางอารมณ์ที่เกิดขึ้นก็ส่งผลดีต่อร่างกายแต่บางอารมณ์ก็ให้ผลตรงกันข้าม แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอารมณ์ไหนส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง วันนี้มาหาคำตอบเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย

5 “อารมณ์” ที่ส่งผลต่อร่างกายของเรา

อารมณ์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

    • ดีใจหรือมีความสุข

มาเริ่มกันที่อารมณ์แรกเลย อารมณ์นี้ที่ใคร ๆ ก็อยากเจอทุกวัน การดีใจหรือมีความสุขนั้นเอง ซึ่งหลัก ๆ เลยจะเกี่ยวข้องกับหัวใจและลำไส้เล็ก เนื่องจากหัวใจมีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือด ภาวะนี้จะทำให้การไหลเวียนของพลังงานและเลือดไหลเวียนช้า แต่จะมีการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่ช่วยลดความเครียด ทำให้เกิดความกระชุ่มกระชวย บางครั้งถ้าเพื่อน ๆ ดีใจมากเกินไป อาจทำให้จิตใจไม่รวมศูนย์ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหม่อลอยและทำให้ขาดสมาธิได้

อารมณ์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

    • เศร้าโศก เสียใจ

อารมณ์นี้เพื่อน ๆ อาจจะไม่อยากเจอหรือไม่อยากรู้สึกกันเลย นั้นก็คืออารมณ์เศร้า เสียใจ จากการผิดหวัง ไม่สมหวังในเรื่องที่คิดหรือตั้งใจไว้นั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อารมณ์นี้จะส่งผลโดยตรงต่อปอดและลำไส้ใหญ่

บางคนอกหัก รักคุด จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยล้า ส่วนบางคนก็เลือกวิธีที่ตรงกันข้ามคือการกินเพื่อให้ลืมเรื่องที่ไม่สมหวัง เรียกว่ากินประชดกันไปเลย แต่เมื่อกินเยอะเกินไปก็อาจส่งผลต่อระบบขับถ่ายได้

เมื่อไหร่ที่เราเสียใจหรือเศร้ากับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งที่จะตามมาแน่ ๆ เลยก็คือการร้องไห้ เพื่อน ๆ บางคนร้องไห้กันข้ามวันข้ามคืน ร้องจนไม่มีน้ำตาจะให้ร้อง สีหน้าเศร้าและคอตกตลอดเวลา ซึ่งอาการคอตกนี้จะมีผลทำให้การทำงานของปอดลดลง ส่งผลให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ออกซิเจนในเลือดลดลง อาการเสียใจที่ร้ายแรงมาก ๆ บางครั้งจะส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้เรารู้สึกหดหู่ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

อารมณ์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

    • โกรธ

อารมณ์เสีย อารมณ์เสีย อารมณ์เสีย !! โกรธทีไรความดันขึ้นทุกที ใจเย็น ๆ ก่อนทุกคน เมื่อไหร่ที่เรามีอารมณ์โกรธหรือโมโหขึ้นมา ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีน (Adrenaline) หรืออิพิเนฟริน (Epinephrine) ที่มาจากต่อมหมวกไต ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้เราเรียกว่าเป็นสารแห่งความโกรธ จะทำให้หัวใจเราบีบตัวมากขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ความดันเลือดสูง ซึ่งเราควรควบคุมอารมณ์โกรธของเราให้เย็นลงให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถ้าเรายิ่งโกรธนานขึ้น ร่างกายจะตอบสนองด้วยอาการเดียวกับคนที่มีภาวะความเครียด คือมีอาการปวดหัว ปวดตา ในบางรายอาจถึงขั้นมีอาการวูบหมดสติเลยก็ได้ รู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าโกรธใครนาน ๆ เลยนะ มันส่งผลเสียต่อระบบร่างกายของเรามากเลย

อารมณ์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

    • ตกใจกลัว

อารมณ์กลัวหรือตกใจ เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นแค่ชั่วครั้งชั่วคราวจากการกระตุ้นของสิ่งเร้าเท่านั้น เป็นการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งที่เป็นภัยหรือกำลังคุกคามเราอยู่ การตกใจกลัวที่ไม่มากเกินไปหรือเกิดแค่ช่วงแวลาสั้น ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่ เพราะจะทำให้เลือดสูบฉีด กระตุ้นการเต้นของหัวใจ

แต่ถ้าอาการนี้รุนแรงมากขึ้น จะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติ ถ้าร้ายแรงมาก ๆ อาจถึงขั้นภาวะช็อกหมดสติ ชาทั่วร่างกาย หายใจติด ๆ ขัด ๆ จิตใจสับสน ร่างกายอ่อนแรง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อไตและกระเพาะปัสสาวะ ที่เรามักเห็นในละครบ่อย ๆ เวลาคนตกใจมาก ๆ จนกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่นั้นเอง

อารมณ์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

    • วิตกกังวล

มาถึงอารมณ์สุดท้ายที่ส่งผลต่อร่างกายกันแล้ว นั้นก็คืออาการวิตกกังวลหรือภาวะเครียดนั้นเอง อารมณ์นี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่ในภาวะที่กดดัน มีเรื่องเข้ามาให้ต้องคิดและกังวลอยู่ตลอด เมื่อเกิดอารมณ์นี้ขึ้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) จากต่อมหมวกไต การทำงานของเจ้าฮอร์โมนตัวนี้คือคือการกระตุ้นให้ร่างกายตอบสนองต่อภาวะอักเสบหรือความเจ็บปวด ยิ่งมีการหลั่งของฮอร์โมนตัวนี้ออกมามาก จะทำให้การควบคุมระดับน้ำและเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ และเกิดการกระตุ้นให้ตับสร้างน้ำตาลมากขึ้น เพราะเมื่อเกิดภาวะเครียด ร่างกายจะต้องการพลังงานมากกว่าปกติ ทำให้เรากินเยอะขึ้น น้ำหนักขึ้นได้ง่าย แต่พอเราอยู่ในภาวะกดดัน ระบบในร่างกายจะแปรปรวน โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร บางครั้งก็อาจทำให้เราเบื่ออาหาร ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยได้

อารมณ์วิตกกังวลนี้ เพื่อน ๆ ควรกำจัดมันออกไปให้เร็วที่สุด หรืออย่าปล่อยให้เป็นเรื้อรังนาน ๆ เพราะในระยะยาวอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เกิดอาการนอนไม่หลับ หรือความจำเสื่อมได้

เตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อต้องเจอกับ “อารมณ์” ที่หลากหลายในแต่ละวัน ด้วย Becoplus

อาหารเสริมบำรุงสมอง

Becoplus อาหารเสริมเพิ่มพลังสมองที่ดูแลคุณและครอบครัว ทั้งวัยรุ่นวัยเรียน วัยทำงาน จนถึงผู้สูงวัย ช่วยเรื่องการนอนหลับ บำรุงสมอง  บำรุงระบบประสาท ช่วยเสริมความจำและสมาธิ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแท้ 100% ที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณ

    • สารสกัดจากพรมมิ : เสริมความจำ เพิ่มสมาธิและการตื่นตัว
    • ใบแปะก๊วย : บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้สมองได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
    • ผงเชอร์รี่ทาร์ต : ช่วยปรับสมดุลการนอน ทำให้หลับสบายลดความเครียด ช่วยบำรุงผิวพรรณและชะลอความเสื่อมของผิวหนัง
    • เก๋ากี้ : บำรุงสายตา ลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันไขมันพอกตับแถมเป็นยาอายุวัฒนะ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามเราได้ที่ Facebook Fan page : Becoplus

แชร์บทความนี้:

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

สินค้าล่าสุด

thThai
LINE LOGO SVG สอบถาม