“เล็บ” (Nails) กับผู้หญิง เค้าว่าเป็นของคู่กัน
เรื่องความสวยความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน เหมือนคำที่บอกว่า “เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย” และต้องสวยจากภายในมาสู่ภายนอก โดยเฉพาะนิ้วมือและเล็บ ที่สาว ๆ ทุกคนคงไม่อยากให้เล็บฉีกขาด ดูไม่สวยงาม บางคนทำเล็บ ทาสีเจลหรือต่อเล็บเจลเพื่อทำให้บุคลิกดูดีมากขึ้นและเป็นการเพิ่มความมั่นใจ เล็บที่ดูอมชมพูจะทำให้คนนั้นดูเป็นคนสุขภาพดี แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นอาจจะกำลังทำลายเล็บของคุณให้เปราะบางและไม่แข็งแรงอยู่ก็ได้
เรื่อง (ไม่) ลับของ “เล็บ” (Nails)
ก่อนที่จะไปดูสาเหตุที่ทำให้เล็บไม่แข็งแรง มาทำความรู้จักกับ “เล็บ” กันก่อน เล็บ (Nails) คือ ชั้นของหนังกำพร้าที่ตายแล้ว ซึ่งเลื่อนจากชั้นล่างขึ้นมาอัดกันแน่นเป็นชั้นๆกลายเป็นแผ่นแข็งที่อยู่บริเวณด้านหลังของปลายนิ้วปล้องสุดท้าย ทั้งนิ้วมือ เรียกว่า เล็บมือ ที่นิ้วเท้า เรียกว่า เล็บเท้า ทั้งนี้ เล็บมือมีหน้าที่ป้องกันอันตรายต่างๆไม้ให้เกิดแก่ปลายนิ้ว รวมถึงใช้ประโยชน์ในการขูดหรือจิก
เล็บมีลักษณะเป็นแผ่นแข็ง และค่อนข้างโปร่งแสง สามารถอ่อนตัวได้ ไม่มีหลอดเลือด และเส้นประสาทมาเลี้ยง ทำให้เวลาตัดเล็บจึงไม่รู้สึกเจ็บ เล็บนี้จะแข็งแรงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับเซลล์มีชีวิตบริเวณโคนเล็บที่เรียกว่า เรียกว่า Matrix ซึ่งหากร่างกายได้รับสารอาหารหลักที่จำเป็นในการสร้างเล็บที่เพียงพอก็ย่อมทำให้เล็บมีความแข็งแรง สารเหล่านี้ ได้แก่ โปรตีน ฟอสฟอรัส และแคลเซียม เป็นต้น
6 สาเหตุ ทำให้ “เล็บ” (Nails) ไม่แข็งแรง เปราะบาง ฉีกขาดง่าย
เล็บเปราะบาง ฉีกขาดง่าย ไม่แข็งแรง มีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง วันนี้เรามาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กัน
-
- ภาวะขาดน้ำ
เคยสังเกตกันไหมว่าสาว ๆ ที่เล็บไม่สวยส่วนใหญ่มีปัจจัยมาจากการขาดน้ำที่เพียงพอต่อร่างกาย ดังนั้นการเติมน้ำจึงเป็นวิธีดูแลเล็บให้สวยที่ต้องห้ามพลาด ทำง่าย และทำได้ทุกวัน โดยการบำรุงเล็บด้วยการดื่มน้ำ ถ้าอยากทำให้ชิน ควรเริ่มที่การตั้งเวลา เช่นทุก ๆ 2 ชั่วโมง น้ำที่ดื่มสามารถเป็นได้ทั้งน้ำอุ่น น้ำอุณหภูมิห้อง หรือสามารถทำสัญลักษณ์แบ่งขีดการรับประทาน เพื่อให้ร่างกายมีระดับน้ำที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ การดื่มน้ำบ่อย ๆ ยังทำให้ผิวพรรณและการขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
-
- ขาดความชุ่มชื้น
การล้างมือบ่อย ๆ การสัมผัสผลิตภัณฑ์สารเคมีก็ทำให้ความชุ่มชื้นของตัวเล็บเสียไปด้วย ทำให้เล็บเปราะบางมากขึ้น และหักง่าย หลังอาบน้ำหรือล้างมือ จึงควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงเล็บให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
-
- ขาดสารอาหาร
บางครั้งเราขาดสารอาหารโดยไม่รู้ตัว ก็ทำให้เล็บอ่อนแอ อาหารประเภทโปรตีนจะช่วยสร้างเคราตินซึ่งช่วยป้องกันการฉีดขาดของเล็บได้
-
- ตะไบเล็บผิดวิธี
การตะไบเล็บไปคนละทิศละทางจะทำให้เล็บฉีกง่าย ควรตะไบเล็บเป็นรูปทรงเล็บที่มีหัวโค้งมน
-
- ทาเล็บหรือทำเล็บบ่อย
สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาทาเล็บทำให้เล็บเปราะบาง ควรทา 2-3 วันแล้วล้างออกเพื่อให้เล็บโดนอากาศ รวมถึงการทำเล็บเจลเพราะหน้าเล็บจะถูกขูดออก ส่งผลให้หน้าเล็บบางอีกด้วย
-
- ขาดวิตามิน
บางคนที่รู้สึกว่าการรับประทานอาหารอาจไมได้ตอบโจทย์กับการดูแลเล็บ หรือเป็นวิธีดูแลเล็บให้สวยที่ทำยาก เพราะอาหารบางอย่างไม่สามารถฝืนทนกินได้ ลองทานวิตามินหรืออาหารเสริม ซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะการรับประทานโอเมก้า 3 วิตามินซี ไบโอติน รวมถึงซิงค์ สังกะสี หรือวิตามินอื่น ๆ เช่น วิตามินบี ดี อี วิตามินบี 7 หรือวิตามินเอชเพียงแค่หมั่นรับประทานให้เป็นเวลา โดยเฉพาะช่วงที่ท้องว่าง หรือช่วงก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ เพียงเท่านี้เล็บก็จะกลับมาสวยสุขภาพดีในเวลาที่รวดเร็วแน่นอน
วิธีกู้ “เล็บ” (Nails) พัง ให้กลับมาปังยิ่งกว่าเดิม
-
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถือเป็นการบำรุงเล็บจากภายในให้สวยใสสู่ภายนอก และควรฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ โดยอาหารที่สามารถรับประทานได้ง่าย ๆ ก็มีทั้งข้าวกล้อง ที่อุดมไปด้วยโฟเลต ช่วยป้องกันปัญหาเล็บขุ่นไม่สดใส เสริมพลังธาตุเหล็กจาก ไข่แดง ผักโขม เนื้อปลา ตับ เพื่อลดอาการผิวเล็บขรุขระ ไม่เรียบเนียน บำรุงเล็บไม่ให้เปราะบาง หรือเล็บลอก ด้วยคุณประโยชน์จากกรดไขมัน ซึ่งได้มาจากปลาแซลมอน ปลาทูน่า น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ รวมถึงอะโวคาโด และอัลมอนด์
-
- ทำความสะอาดเล็บอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ
โดยใช้น้ำอุ่นกับสบู่อ่อนๆ สูตรธรรมชาติ ไม่ต้องเน้นฟอกซอกเล็บเป็นพิเศษ แค่ล้างมือไปตามปกติ แนะนำให้ล้างมือตามปกติและใช้สบู่อ่อนๆ เพราะถ้าใช้สบูู่แรงๆ แบบมีพาราเบน จะทำให้เล็บแห้งฉีกได้ หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก็ทำให้เล็บเปราะง่ายเช่นกัน แช่เล็บในชามใส่น้ำสบู่อุ่นๆ ประมาณ 3 นาที จุ่มเฉพาะปลายเล็บ (อย่าแช่ทั้งมือ) ลงในน้ำ แล้วแช่จนนิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่าให้น้ำเย็นลงจนเป็นน้ำธรรมดา หรือร้อนเกินไปจนลวกมือ น้ำต้องอุ่นกำลังดี แช่แล้วเล็บจะอ่อนนุ่มขึ้น โค้งง่าย ไม่ฉีกหรือหักระหว่างทำความสะอาด
-
- ตัดเล็บ
ควรตัดเล็บแต่พอดี ไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป และไม่ควรกัดเล็บ เพราะมีสาว ๆ จำนวนไม่น้อย เวลาที่รู้สึกว่าง คิดงานไม่ออกหรือรู้สึกหมั่นเขี้ยวเวลาที่เล็บงอกออกมาใหม่ ต้องขบต้องกัดเพื่อให้รู้สึกสะใจ หรือระบายสิ่งที่อยู่ในใจผ่านวิธีนี้ ต้องเลิกทำทันทีเพราะจะทำให้เล็บฉีกง่ายกว่าเดิม
-
- บำรุงเล็บ
การทาแฮนด์ครีมเป็นประจำ รวมถึงโลชั่นต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณในด้านการเพิ่มความชุ่มชื้น สำหรับเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญพอกับการอาบน้ำ ล้างหน้า การทาครีมบำรุงจุดต่าง ๆ เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งถ้าหากเล็บของเราได้รับการปรนนิบัติที่ดี เฉกเช่นร่างกายส่วนอื่นๆ เล็บของเราก็จะดูสวยมีสุขภาพ หยิบจับอะไรก็ดูน่ามอง และเราก็จะมั่นใจมากขึ้น ส่วนการบำรุงเล็บด้วยวิธีนี้มีขั้นตอนง่าย ๆ ก็คือ บีบครีมลงบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ตามข้อมือให้ทั่ว จากนั้นเน้นที่บริเวณจมูกเล็บเพราะเป็นส่วนที่แห้งกร้านได้ง่ายที่สุด พยายามทำให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 – 4 ครั้ง หรือถ้าใครพอมีเวลา ก็สามารถนวดตามข้อนิ้วเพื่อลดความเมื่อยล้าจากการทำงาน
-
- นวดนิ้วมือหรือทำสปามือ
ควรนวดมือ นิ้ว และเล็บด้วยน้ำมันมะกอกเป็นประจำ การทำสปาเป็นอีกวิธีดูแลเล็บให้สวยที่สาว ๆ คนไหนก็สามารถทำได้ เราจะเห็นได้จากร้านสปามือชั้นนำส่วนใหญ่ ที่หลังจากการทาสีเล็บ หรือเพ้นท์เล็บเจล จะมีการนวดนิ้วมือร่วมกับการใช้ออยล์บำรุงเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อให้เลือดในร่างกายสามารถไปเลี้ยงมือและเล็บได้อย่างทั่วถึง แต่หลายคนที่ไม่อยากเปลืองเงิน หรืออยากเก็บเงินไว้ช็อปปิ้ง ลองหันมาบำรุงเล็บด้วยตนเองที่บ้านง่าย ๆ เพียงนำน้ำสับปะรดมา หรือน้ำมะนาวผสมกับไข่ขาวมาผสมในปริมาณเท่ากัน จากนั้นนำไปนวดเล็บประมาณ 3- 5 นาที ทิ้งไว้จนแห้งก่อนล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยคลายเครียดและเสริมสุขภาพให้เล็บกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
ดูแล “เล็บ” (Nails) ด้วย NADE’ Collagen ทั้ง 2 สูตร
NADE’ Marine Collagen + Dipeptide และ NADE’ Collagen Jelly มีคอลลาเจนไดเปปไทด์ที่ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 10 เท่า ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้แข็งแรง ลดความเหี่ยวย่นของผิวได้อย่างดี ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ ดูเด็กกว่าวัยและเต่งตึง รวมถึงยังช่วยดูแลเส้นผม เอ็น ข้อต่อ ข้อเข่า กระดูก เหงือก ฟันและเล็บให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
NADE’ Marine Collagen + Dipeptide คอลลาเจนรูปแบบผงชงดื่ม กลิ่นมิกซ์เบอร์รี่ ทานง่าย ไม่คาว และ NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่ที่พกพาสะดวก รสพีช ไม่คาว สารสกัดอัดแน่นเต็มซอง ประโยชน์จัดเต็มขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้วววว