Brain fog “ภาวะสมองล้า” ของคนวัยทำงาน

ภาวะสมองล้า

“ภาวะสมองล้า” หรือ Brain fog คืออะไร

ภาวะสมองล้าคือภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัวจากการที่สมองถูกใช้งานอย่างหนักเป็นระยะเวลานาน เกิดเป็นความเครียดสะสม บวกกับพักผ่อนน้อย ใช้สายตาทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือหมกมุ่นอยู่กับเรื่องงานตลอดเวลา ทำให้ระบบประสาทเสียสมดุล ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เกิดเป็นอาการสมองตื้อตัน คิดอะไรได้ช้าลง คิดไม่ออก ซึ่งหากเกิดอาการภาวะสมองล้าบ่อยครั้งนอกจากส่งผลต่อการทำงานแล้วในระยะยาวยังเสี่ยงเกิดโรคอื่น ๆ เช่น เกิดอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และสมองเสื่อมก่อนวัยตามมาอีกด้วย

ที่จริงแล้วภาวะสมองล้าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้ใหญ่ วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ข้อดีคือสามารถฟื้นฟูให้การทำงานของสมองกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ แต่อีกทางหนึ่งก็อาจสามารถกลับมาเป็นได้อีกเช่นกัน หากยังรักษาไม่ตรงจุด ซึ่งอาการของภาวะสมองล้า มักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเข้าสังคม การเรียน การทำงาน รวมถึงคุณภาพการนอนหลับ เป็นต้น

 

Brain fog Syndrome ภาวะสมองล้าของคนวัยทำงาน

 

“ภาวะสมองล้า” เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ความจริงแล้วภาวะสมองล้าเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่จะพบมากในวัยทำงานและวัยเรียน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะสมองล้านั้นมีปัจจัยหลายอย่างเช่น 

    • พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนไม่เป็นเวลา
    • ความเครียดสะสมจากการทำงาน ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง
    • ขาดสารอาหารบางชนิด เนื่องจากทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
    • คลื่นแม่เหล็กและแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ที่รบกวนการทำงานของสมอง และทำให้ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างต่อเนื่อง
    • ร่างกายขาดน้ำ จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง
    • ได้รับสารพิษต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น มลภาวะ สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอากาศ อาหาร และน้ำ เป็นต้น

ภาวะสมองล้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?

 

7 สัญญาณเตือน “ภาวะสมองล้า”

    1. นอนหลับยาก หรือหลับไม่สนิท 
    2. ปวดศีรษะเรื้อรัง
    3. อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
    4. ความคิดสร้างสรรค์ลดลง
    5. ความสามารถในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ลดลง
    6. มีอาการหลงลืม
    7. ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

เช็คระดับ “ภาวะสมองล้า”

อาการระดับเบา

    • สมองล้าระยะแรกจะเริ่มมีอาการไม่สบายตัวเมื่อตื่นตอนเช้า หัวตื้อ ขี้หลงขี้ลืม ปวดหัวบ่อย แต่อาจจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะต้องทำงานเยอะอยู่ด้วยความเคยชินคิดว่าเดี่ยวก็หายเองได้จึงไม่หาทางแก้ไข อาการเหล่านี้เตือนว่าสมองส่วนไฮโปทาลามัสกำลังเจอศึกหนักแล้ว

อาการระดับกลาง – รุนแรง

    • อาการระดับเบาส่วนมากเกี่ยวโยงกับไฮโปทาลามัสเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิต แต่เพราะเห็นเป็นอาการเบา ๆ จึงไม่สนใจ ซึ่งหากปล่อยไว้อาการอาจเข้าสู่ระดับกลาง เช่น ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น กระสับกระส่าย วิตกกังวล ใจเต้นเร็ว ตัวเย็นวูบวาบ ปวดหัวส่งผลต่อระบบไร้ท่อและระบบเผาผลาญอาหาร  ทำให้การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติ ระบบเผาผลาญผิดปกติ  เช่น ท้องเสีย ท้องผูก อาหารไม่ย่อย ประจำเดือนมาไม่ปกติ อ่อนเพลียเรื้อรัง ผิวพรรณหยาบกร้าน แก่ก่อนวัย และอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และอักเสบได้ง่าย เช่น ลำไส้อักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ทอนซิลอักเสบ เป็นหวัดบ่อย เป็นต้น

คนส่วนใหญ่เมื่ออาการมาถึงขั้นนี้อาจจะละเลยเรื่องการดูแลสมอง แต่ไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เช่น ปวดหัวก็กินยา ปวดท้องก็กินยา แต่หากปล่อยให้สมองล้านาน ๆ ไป อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายต่อร่างกายอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ความดันสูง โรคหัวใจ เบาหวาน แผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเราอาจกล่าวได้ว่าการเป็นโรคร้ายการใช้ชีวิตมีส่วนหนึ่งมาจากอาการสมองล้า เพราะสมองก็คือศูนย์บัญชาการของร่างกายทั้งหมดนั่นเอง

 

7 สัญญาณเตือนภาวะสมองล้า

“ภาวะสมองล้า” เป็นแล้วหายได้

ใช่เลย! ใครที่มีอาการแบบนี้ เรามีวิธีดูแลภาวะสมองล้ามาฝากกัน

    1. ดูแลตัวเองให้มากขึ้น 

เริ่มต้นดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ แค่นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเต็มที่ หากิจกรรมทำเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว อย่างการทำงานบ้าน ออกกำลังกาย เดินออกไปทิ้งขยะ หรือเดินไปเติมน้ำ ช่วยให้คุณได้ใช้กล้ามเนื้อและใช้พลังงานมากขึ้น นอนหลับเป็นเวลา ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย บริหารจัดการความเครียดของตนเอง และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง 

    1. พักผ่อนบ้าง

การที่ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ อาจส่งผลให้คนทำงานรู้สึกเบื่อหน่าย จนเกิดเป็นความเครียด ลองออกไปสูดอากาศภายนอก เลือกทำกิจกรรมที่ชอบ หรือท่องเที่ยวบ้างเพื่อช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ถือเป็นการเติมพลังชีวิตด้วย 

    1. จัดการตารางชีวิตใหม่

เปลี่ยนตารางชีวิตที่แน่นจัด เป็นการลำดับสิ่งที่ต้องทำเป็นขั้นเป็นตอนแทนเพื่อให้รู้ว่าแต่ละวันต้องทำอะไรก่อน-หลังบ้าง วิธีนี้ไม่ได้ช่วยแค่จัดระเบียบชีวิต แต่ยังช่วยลดความวิตกกังวลอีกด้วย

ภาวะสมองล้าเป็นแล้วหายได้

 

ใช้สมองหนักก็ต้องบำรุงกันหน่อย ป้องกันภาวะสมองล้าด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมอง Becoplus

นอกจากการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตแล้ว การทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กัน เริ่มบำรุงสมองแบบง่าย ๆ จากการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองทานและอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่ให้โปรตีนอย่าง เนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือถั่ว 

และเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus ที่สกัดจากสารสกัดธรรมชาติ 100% ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เสริมความจำ สร้างสมาธิ และยังช่วยปรับสมดุลการนอน ให้คุณนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม ตื่นเช้ารับวันใหม่อย่างสดชื่น

ใช้สมองหนักก็ต้องบำรุงกันหน่อย ป้องกันภาวะสมองล้า ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมอง Becoplus

 

แชร์บทความนี้:

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

สินค้าล่าสุด

thThai
LINE LOGO SVG สอบถาม